การซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า

การซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมและได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย แน่นอนในขณะนี้มีทั้งผู้เล่น หน้าเก่า และหน้าใหม่ ทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ ผู้นำเข้าอิสระ ถยอยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดในประเทศไทยกันอย่างต่อเนื่องแต่นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า และนวัตกรรมใหม่ๆแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆที่กำลังจะเป็นหรือเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าแล้วควรรู้ไว้นั้นก็คือ การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า

การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้ามีบางประการที่แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงทั่วไป เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน นี่คือบางข้อแนะนำในการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้า

การชาร์จแบตเตอรี่: ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ และใช้ชาร์จเต็มพิกัดหรือชาร์จที่เหมาะสมเพื่อรักษาสภาพแบตเตอรี่ให้ดี รถยนต์ไฟฟ้าต้องการการดูแลแบตเตอรี่เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา

การบำรุงรักษาช่วงพื้นผิวและภายใน: ควรทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงพื้นผิวภายนอกและภายในรถ เพื่อรักษาความสดใหม่ของรถยนต์ การทำความสะอาดและดูแลเครื่องยนต์ ระบบทางลม และอุปกรณ์อื่นๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความทนทานของรถ

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ถึงแม้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีเครื่องยนต์เชื้อเพลิง แต่ระบบขับเคลื่อนยังต้องการการบำรุงรักษา เช่น ระบบที่ขับเคลื่อนแบบอิเล็กทริก ทำงานต่อเนื่องและมีส่วนประกอบที่ต้องการน้ำมันเพื่อดูแล

การตรวจสอบระบบเบรก: ระบบเบรกในรถยนต์ไฟฟ้ามีความสำคัญต่อความปลอดภัย เช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไป ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสอบโซล่าเซลล์ (Solar Cells): หากรถยนต์ไฟฟ้ามีการใช้โซล่าเซลล์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่หรือให้พลังงานระบบต่างๆ ต้องดูแลรักษาโซล่าเซลล์ให้สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดี

การตรวจสอบระบบไฟฟ้า: ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของรถ ควรตรวจสอบสายไฟ หลอดไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การตรวจสอบซอฟต์แวร์และอัพเดท: บางครั้งอาจมีการอัพเดทซอฟต์แวร์ในรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพหรือความปลอดภัย การตรวจสอบและอัพเดทซอฟต์แวร์เป็นสิ่งสำคัญ

การดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้ามีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงตามเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้ การตรวจสอบคู่มือการใช้งานและคำแนะนำจากผู้ผลิตเป็นสิ่งที่ดีเสมอ

เมื่อเรามีรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของคุณ เพราะคุณจะต้องชาร์จไฟฟ้าทุกครั้งหลังจากใช้งานมา ทำให้ชินเหมือนชาร์จโทรศัพท์มือถือ และถ้ามีเวลาอยู่บ้านควรชาร์จไฟฟ้าให้แบตเตอรี่อยู่ในสถานะเต็ม 100% ในระหว่างการขับขี่ปกติหากมีสัญาณเตือนสีแดงขึ้นมาว่าควรชาร์จแบตเตอรี่ ควรหาจุดชาร์จ และจอดชาร์จทแบตเตอรี่โดยเร็วที่สุด เวลาในการชาร์จไม่ควรนานเกินไปมิฉะนั้นจะเกิดการชาร์จไฟเกินส่งผลให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน การชาร์จไฟมากเกินไปการคายประจุและการชาร์จไฟต่ำเกินไปจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง ในระหว่างการชาร์จหากอุณหภูมิของแบตเตอรี่สูงกว่า 65 องศาควรหยุดการชาร์จ